ไฟฟ้า คือ พลังงานที่มีความสำคัญต่อชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อำนวยความสะดวกให้กับเราทุกวันนี้ต่างก็ต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพัดลม, แอร์, โทรทัศน์ หรือแม้แต่ระบบรักษาความปลอดภัยในยุคนี้ก็เลือกที่จะใช้เป็นระบบไฟฟ้าเช่นกัน เมื่อชีวิตของเราต้องอยู่ใกล้กับไฟฟ้าถึงขนาดนี้ จึงควรศึกษาเรื่องราวที่น่าสนใจของไฟฟ้าไว้บ้าง ถ้าเกิดปัญหาเรื่องระบบไฟภายในบ้านจะได้รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด วันนี้วานิชกรุ๊ปจึงขอนำความรู้เรื่องระบบไฟฟ้า 1เฟส กับ 3 เฟส ที่ถูกใช้งานมากที่สุด
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส คือ ระบบไฟที่ใช้ภายในบ้านเรือน มีการจ่ายไฟที่เหมาะสมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน แต่ระบบไฟฟ้า 3 เฟส จะใช้กับงานด้านอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ ต้องใช้ไฟฟ้าในปริมาณมาก และอาจจะมีการเชื่อมต่อไฟฟ้าเพื่อไปใช้ในอาคารต่างๆ บนพื้นที่เดียวกัน ซึ่งระบบไฟฟ้าทั้ง 2 แบบ มีความแตกต่างกันในเรื่องแรงดันไฟฟ้าที่เห็นชัด คือ
1. ระบบไฟฟ้า 1 เฟส คือ มีแรงดันไฟฟ้า 220 – 230 โวลท์ (Volt) มีความถี่ 50 เฮิร์ซ (Hz)
จะมีสายไฟฟ้าในระบบจำนวน 2 สายประกอบด้วย
– สายไลน์ หรือสายเฟส หรือสายไฟ เขียนแทนด้วยตัวอักษร L (Line) 1 เส้น ทดสอบโดยใช้ไขควงวัดไฟ แตะสายจะพบว่าหลอดไฟเรืองแสงที่อยู่ภายในไขควงจะมีไฟติด
– สายนิวทรอล หรือ สายศูนย์ เขียนแทนด้วยตัวอักษร N (Neutral) ถ้านำไขควงวัดไฟมาทดสอบจะไม่มีไฟติด
ดังจะเห็นได้จากปลั๊กไฟตามบ้านที่เห็นมีช่องเสียบอยู่ 2 ช่องนั้น ถ้าเอาไขควงสำหรับตรวจกระแสไฟฟ้าลองวัดดูจะเห็นได้ว่าช่องหนึ่งจะมีไฟแดงปรากฏ แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แต่เมื่อเวลาใช้งานกับหลอดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้ร่วมกันทั้ง 2 สาย เพื่อให้กระแสไฟฟ้าครบวงจร
ส่วนบางแห่งที่เห็นปลั๊กไฟมี 3 ช่องนั้นยังเป็นระบบไฟฟ้า แบบ 1 เฟสเหมือนกัน แต่ช่องที่เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นช่องที่ต่อกับสายดิน ( ground ) เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลลงดิน เวลาเกิดไฟรั่วเป็นการเพิ่มความปลอดภัย และปลั๊กของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะใช้กับ ระบบสายดินนี้จะเป็นปลั๊กแบบ 3 ขาซึ่งในต่างประเทศถือเป็นระบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส จะมีการติดตั้งที่สะดวก ขอมาติดตั้งได้ง่าย ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งน้อย แต่ถ้ามองในระยะยาวแล้วไม่ค่อยคุ่มค่าเพราะค่อนข้างเปลืองพอสมควร
2. ระบบไฟฟ้า 3 เฟส คือ มีแรงดันไฟฟ้าระหว่าง สายไลน์ กับ ไลน์ 380 – 400 โวลท์ และแรงดันไฟฟ้าระหว่างสายไลน์ กับ นิวทรอล 220 – 230 โวลท์ และมีความถี่ 50 เฮิร์ซ (Hz)
จะมีสายไฟในระบบจำนวน 4 สาย ประกอบด้วย
– สายไลน์ (มีไฟ) 3 เส้น
– สายนิวทรอล (ไม่มีไฟ) 1 เส้น
ไฟฟ้า 3 เฟส จะให้แรงดันไฟฟ้าระหว่างสายไลน์กับไลน์ในขนาด 380-400 โวลท์ พร้อมการทำงานของแรงดันไฟฟ้าระหว่างสายไลน์ กับสายนิวทรอลในขนาด 220-230 โวลท์ และมีความถี่ที่ 50Hz โดยมีสายไฟในระบบถึง 4 สาย ที่ประกอบไปด้วยสายไลน์แบบมีไฟ 3 เส้น กับสายนิวทรอลแบบไม่มีไฟ 1 เส้น
การทำงานของระบบไฟฟ้า 3 เฟส จะเน้นเรื่องของแสงสว่าง, อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ในโรงงาน ในความเป็นจริงแล้วระบบไฟฟ้าลักษณะนี้จะนิยมนำไปใช้กับเครื่องจักรอุตสาหกรรมในโรงงานมากกว่าใช้ภายในบ้าน เนื่องด้วยเครื่องจักรอุตสาหกรรมมีแรงดันไฟฟ้าสูง แม้แต่แสงสว่างภายในโรงงานก็ต้องใช้เป็นจำนวนมาก และเวลาเปิดก็มักจะเปิดพร้อมกัน แต่ก็ใช่ว่าระบบไฟฟ้า 3 เฟส จะใช้งานภายในบ้านไม่ได้ เพียงแต่จะต้องไม่ใช้ไฟฟ้า 3 เฟส กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ โดยตรง
แต่จะต้องมีการแบ่งใช้ไฟฟ้า 3 เฟส ออกมาเป็น 3 ชุด ชุดละ 1 เฟส แล้วกระจายออกไปตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เน้นเฉลี่ยการใช้ไฟในแต่ละส่วนที่เท่าๆ กัน ทำให้กระแสไฟมีความสมดุล สามารถใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าและแสงสว่างภายในบ้านได้อย่างเหมาะสม ทั้งยังทำให้ค่าไฟลดลงอีกด้วย
Thailand CRANE ให้บริการติดตั้ง อินเวอร์เตอร์ (inverter)ระบบไฟฟ้า 1 เฟส และ ไฟฟ้า 3 เฟส
สำหรับงานเครนไฟฟ้า รอกไฟฟ้า เครื่องจักรในโรงงาน สินค้าคุณภาพ ระดับยุโรป ติดตั้งได้มาตรฐาน ราคาประหยัด